คนไทยส่วนใหญ่ชื่นชอบรสหวาน ทำให้หลายคน ติดหวาน เพราะเมื่อกินอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มรสหวาน แล้วรู้สึกอร่อย สดชื่น แจ่มใส และความเครียดลดลง แต่รู้ไหมว่าการติดหวานก็ส่งผลเสีย เพราะเมื่อน้ำตาลในเลือดลดลงจากปริมาณที่เคยได้รับในแต่ละวัน จะส่งผลต่ออารมณ์ ทำให้หงุดหงิด รู้สึกไม่สดชื่น อ่อนเพลียง่าย และการบริโภคน้ำตาลมากเกินไป ยังส่งต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงภาวะอ้วนอีกด้วย 

การติดหวานหรือบริโภคน้ำตาลมากเกินไปก่อให้เกิดผลเสียอะไรบ้าง 

  • ฟันผุ 
  • โรคความดัน 
  • โรคเบาหวาน
  • โรคหัวใจ
  • โรคหลอดเลือด
  • โรคมะเร็ง 
  • โรคอ้วน 

แม้ว่ารสหวานนั้นจะช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร ขนม และเครื่องดื่มต่าง ๆ ให้มีความอร่อย แต่โทษของการกินหวานก็มีราคาที่ต้องจ่ายสูง โดยเฉพาะด้านสุขภาพ วันนี้เราจึงจะมาชวนทุกคนลดระดับน้ำตาลที่บริโภคในแต่ละวันกันค่ะ 

fruit and berry platter over white blueberry str 2022 02 02 04 49 43 utc 1

ทดแทนรสหวานด้วยน้ำตาลธรรมชาติ

หากติดรสหวานไปแล้ว บริโภคน้ำตาลจนร่างกายเคยชิน การตัดขาดจากของหวานที่เคยชื่นชอบไปเลย อย่าง เบเกอรี่ ขนม ไอศกรีม ทันที อาจส่งผลให้เกิดอาการเฉื่อยชา อ่อนเพลีย เหมือนไม่มีแรง ไม่สดชื่น อาจทดแทนด้วยน้ำตาลธรรมชาติด้วยการทานผลไม้ แต่ควรเป็นผลไม้ที่รสหวานไม่มาก เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ฝรั่ง แอปเปิ้ล เป็นต้น หรือเลือกใช้วัตถุดิบปรุงอาหารที่ให้รสหวานธรรมชาติ อย่าง หอมใหญ่ ฟักทอง มะเขือเทศ เป็นต้น ได้ทั้งวิตามินและแร่ธาตุ แถมยังไม่ขาดหวานอีกด้วย 

เลือกทานอาหารออร์แกนิก แทนอาหารแปรรูป 

อาหารแปรรูป และอาหารสำเร็จรูป จะมีการแต่งสี แต่งกลิ่น มีปริมาณผงปรุงแต่งอย่าง เกลือ น้ำตาล ผงชูรสจำนวนมาก และมีสารกันบูดที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพในอนาคต อีกทั้งอาหารตามร้านอาหารต่าง ๆ ก็มักจะเต็มไปด้วยเครื่องปรุงสารพัดที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้น การทำอาหารทานเอง นอกจากจะช่วยควบคุมปริมาณน้ำตาลและโซเดียมในอาหาร ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย 

เลี่ยงอาหารเช้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาล

อาหารเช้าอุดมไปด้วยน้ำตาลที่หลายคนนิยมทาน เช่น ซีเรียลเคลือบน้ำตาล ขนมปังทาแยม พาย วาฟเฟิล แพนเค้กราดน้ำผึ้ง มัฟฟิน ครัวซอง และขนมอื่น ๆ ที่มักจะทานคู่กับกาแฟในมื้อเช้า แม้รสหวานอร่อย ทานง่าย แต่อาหารเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา ดังนั้นควรเลี่ยงอาหารเหล่านี้ และเปลี่ยนไปทานอาหารสุขภาพ ไข่ต้ม ไข่ดาวน้ำ ไข่ตุ๋น กรีกโยเกิร์ต อะโวคาโด ให้พลังงานสูง มีไขมันดี และมีน้ำตาลต่ำ ดีกว่า 

อ่านฉลากบนบรรจุภัณฑ์ก่อนซื้อเสมอ 

line of caramel candies 2021 08 29 21 51 03 utc 1

ทุกครั้งที่จะเลือกซื้อสินค้า โดยเฉพาะสินค้าบริโภคที่มีการบรรจุภัณฑ์ ควรอ่านฉลากให้ละเอียด อย่าอ่านฉาบฉวยเพียงแค่เห็นคำว่า “no suger” หรือ  “low sugar” เพราะส่วนผสมหลายชนิดที่นำมาใช้ทดแทนน้ำตาล ส่งผลอันตรายเทียบเท่าน้ำตาล และบางครั้งก็เป็นส่วนผสมหลายที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก หรือไม่คุ้นเคยว่าคืออะไร 

ส่วนผสมอะไรบ้างที่อันตรายไม่ต่างจากน้ำตาล 

  • Caramel (คาราเมล)
  • Dextrose (เด็คโตรส) 
  • High – fructose corn syrup (น้ำเชื่อมข้าวโพด)
  • Invert sugar (สารให้ความหวานแทนน้ำตาล) 
  • Maltose (มัลโตส) 
  • Molasses (น้ำเชื่อม) 
  • Rice syrup (น้ำเชื่อมข้าว) 

เปลี่ยนเครื่องดื่ม 

ใครที่ชอบดื่มน้ำอัดลม น้ำหวานต่าง ๆ ให้ตัดไปเลยค่ะ หากต้องการดื่มน้ำหวาน ๆ ให้เปลี่ยนมาดื่มน้ำผลไม้สด น้ำผลไม้ปั่นสด ที่ไม่เติมน้ำตาลดีกว่า และไม่ควรเป็นน้ำผลไม้กล่อง มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมสูงมากเช่นกัน ควรลดเครื่องดื่มชูกำลัง และงดชา กาแฟ ที่มีการเติมนม น้ำตาล หากใครติดกาแฟ ควรดื่มกาแฟดำ หรือ อเมริกาโนแทน

ขนมสุขภาพ ไม่ได้แปลว่าไม่มีน้ำตาล 

บางครั้ง ผลไม้อบแห้ง ขนมสุขภาพ ขนมที่ทำมาจากธัญพืช มีปริมาณน้ำตาลสูงพอ ๆ กับช็อกโกแลต 1 แท่งเลยทีเดียว ดังนั้น อย่าไว้ใจกับคำว่าขนมเพื่อสุขภาพ ต้องสังเกต อ่านฉลาก หรือดูส่วนผสมให้ดี ๆ ก่อนทานเสมอ