หลังจากที่สำนักพระราชวังบักกิงแฮมได้มีการแถลงอย่างเป็นทางการว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบทที่ 2 กษัตรแห่งประเทศอังกฤษ หรือ ควีนอลิซาเบธ สวรรคคตอย่างสงบ ในขณะอายุพระชนมายุ 96 พรรษา ณ พระตำหนักบัลมอรัลในสกอตแลนด์ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 8 กันยายน 2022 ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศอังกฤษ และตรงกับเวลา 00.31 น.ในวันที่ 9 กันยายน ของประเทศไทย รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศไว้อาลัยเป็นเวลา 10 วัน โดยจะมีการลดธงลงครึ่งเสาทั่วสหราชอาณาจักร 

 

ไม่เพียงแต่ประชาชนชาวในประเทศอังกฤษเท่านั้นที่มีความโศกเศร้ากับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ แต่หลายประเทศทั่วโลกก็ร่วมไว้อาลัยเช่นกัน เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นพระราชินีผู้ทรงเปี่ยมไปด้วยเมตตา ทรงห่วงใยและดูแลประชาชนด้วยคุณธรรมของผู้เป็นกษัตริย์อย่างแท้จริง นอกจากนี้พระองค์ยังเป็นกษัตริที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์อังกฤษ และทรงครองสิริราชสมบัติยาวนานที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากสมเด็จพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ที่ครองราชย์ 72 ปี 110 วัน อีกด้วย 

อีกทั้งพระองค์ยังทรงเป็นพระประมุขของสหราชอาณาจักรและอีก 15 ประเทศ ทรงเป็นองค์ประมุขรัฐในเครือจักรภพ และประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรแห่งอังกฤษ (Church of Church of England) 

บทความนี้จึงขอนำประวัติพระองค์ เพื่อร่วมแสดงความไว้อาลัยให้กับพระราชินีผู้ยิ่งใหญ่ของโลก และจารึกจริยวัติอันงดงามของพระองค์ให้โลกใบนี้ได้จดจำไปตราบนานเท่านาน 

พระราชสมภพเจ้าหญิงองค์โตในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบทที่ 2 ทรงมีพระราชสมภพวันที่ 21 เมษายน ค.ศ.1926 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์แรกของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 และ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธพระราชชนนี และมีพระขนิษฐา คือ เจ้าหญิงมากาเรต ซึ่งมีพระชันษาห่างจากพระองค์ 4 พรรษา

สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 (พระราชบิดาของควีนเอลิซาเบท) ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 กับสมเด็จพระราชินีแมรี ซึ่งพระเจ้าจอร์จเสด็จขึ้นครองราชย์อันเนื่องมาจากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 (พระปิตุลา) ได้ทรงสละราชสมบัติ ส่งผลให้พระราชธิดาองค์โตเป็นผู้สืบรัชทายาทโดยบัดดล ในพระนามของ เจ้าหญิงเอลิซาเบท อเล็กซานดรา แมรี แห่งยอร์ก 

เจ้าหญิงเอลิซาเบททรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจตั้งแต่พระชนมายุเพียงสิบกว่าพรรษา ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจครั้งแรกเมื่อพระชนมายุ 16 พรรษา ในฐานะนายทหารยศพันเอกแห่งกองทหารราบรักษาพระองค์ ทรงตรวจพลสวนสนาม และทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยงข้องกับเด็กและเยาวชน

ทรงประกาศหมั้นและเข้าพิธีอภิเษก

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการทหารนอกประจำการ ส่งผลให้พระราชกรณียกิจของพระองค์เพิ่มมากขึ้น ทั้งการเสด็จประพาสเยียมเยือนภายในประเทศและนอกประเทศ และระหว่างปฏิบัติพระราชกรณียกิจในช่วงที่ครบรอบวันประสูตรปีที่ 21 พระองค์ได้ทรงแถลงการณ์ออกอากาศ ประกาศหมั้นกับ เรือโท ฟิลลิปส์ เมาท์แบทเท็น (เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ) และประกาศเจตนารมณ์ที่จะอุทิศพระองค์เพื่อภารกิจของประเทศในเครือจักรภพในปีเดียวกัน จากนั้นไม่นานได้มีพระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่าง เจ้าหญิงเอลิซาเบท กับ เรือโทฟิลลิปส์ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ.1947 โดยจัดขึ้นที่เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ 

พระโอรสและพระราชธิดา

สมเด็จพระราชินีนาถฯ แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดาด้วยกันตามลำดับต่อไปนี้ 

  1. เจ้าชายชาลส์ ประสูติเมื่อปี ค.ศ.1948 ซึ่งดำรงพระอิสริยยศในปัจจุบันเป็น “เจ้าชายแห่งเวลส์”  
  2. เจ้าหญิงแอนน์ ประสูติปี ค.ศ.1950 ดำรงพระอิสริยยศในปัจจุบันเป็น “ราชกุมารี” 
  3. เจ้าชายแอนดรูว์ ประสูติเมื่อปี ค.ศ.1960 อิสริยยศของพระองค์ในปัจจุบันคือ “ดยุกแห่งยอร์ก” 
  4. เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ประสูติปี ค.ศ.1964 ดำรงพระอิสริยยศ “เอิร์ลแห่งเวสเซ็กส์” 

เจ้าหญิงเอลิซาเบทเสด็จขึ้นครองราชย์ 

หลังจากพระบิดาได้ขึ้นครองราชย์ เจ้าหญิงเอลิซาเบททรงศึกษาเพิ่มเติม ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ กฏหมาย และวิชาการแขนงต่าง ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการปกครอง และยังทรงศึกษาด้านศิลปะ ดนตรี และการขี่ม้า ที่กลายมาเป็นกีฬาโปรดของพระองค์ในเวลาต่อมา 

เจ้าหญิงเอลิซาเบทเสด็จขึ้นครองราชย์ ขณะมีพระชนมายุเพียง 25 พรรษา เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ทรงเสด็จสวรรคตในคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1952 ซึ่งมีมีพระราชพิธีบรมราชินยาภิเษก (พระราชพิธีสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์) หลังจากที่เจ้าหญิงเอลิซาเบทขึ้นครองราชย์ 16 เดือน โดยจัดขึ้นที่มหาวิหารเวสมินสเตอร์ในวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ.1953 และเป็นครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดพระราชพิธีนี้ให้เห็นกันทั่วโลก

พระปฐมบรมราชโองการ

“พร้อมอุทิศชีวิตเพื่อประชาชน” 

ในพระราชพิธีบรมราชินยาภิเษก สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ได้พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการแก่พสกนิกรชาวอังกฤษว่า “ข้าพเจ้าขอประกาศว่า ข้าพเจ้าพร้อมอุทิศชีวิตเพื่อประชาชนของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอยากขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะศาสนาใดก็ตามให้ช่วยสวดภาวนาให้ข้าพเจ้า ในวันที่ข้าพเจ้าต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกษัตริย์แห่งอังกฤษ สวดภาวนาให้พระเป็นเจ้าประทานพระปัญญาญาณ และความเข้มแข็งให้ข้าพเจ้าสามารถปฏิบัติราชกิจลุล่วงตามที่ข้าพเจ้าได้ให้สัตย์ปฏิญาณไว้ และข้าพเจ้าพร้อมรับใช้พระเป็นเจ้าและประชาชนของข้าพเจ้าทุกคน ตลอดที่ข้าพเจ้ายังมีลมหายใจ”

นับตั้งแต่วันนั้นพระองค์ได้ทรงกรณียกิจเพื่อพสกนิกรตลอดในช่วงระยะเวลาที่ครองราชย์อย่างยาวนาน 70 กว่าปี จวบจนเสด็จสวรรคตในพระชนมายุ 96 พรรษา ซึ่งเป็นการครองราชย์ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักร และยาวนานที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก